เป็นอีกหนึ่งแก็ตเจ็ตที่อยากจะแนะนำกันสำหรับ Samsung Gear Sport สมาร์ทวอทช์สำหรับคนรักสุขภาพจากทาง Samsung ที่มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน IFA 2017 พร้อมกันกับ Gear IconX (2018) และ Gear Fit2 Pro ที่เราเคยนำมารีวิวกันไปก่อนหน้านี้
Gear Sport เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีหน้าปัดทรงกลมแบบคลาสสิค ที่มีฟีเจอร์อัจฉริยะรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการออกกำลังกายด้วยมาตรฐานการกันน้ำ 5ATM และความทนทาน MIL-STD-810G ขณะที่ข้อมูลสเปกมีดังนี้
- ระบบปฏิบัติการ Tizen OS 3.0
- หน้าปัดทรงกลมใช้จอ Super AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 360×360 พิกเซล คลุมด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3
- ชิปเซต Dual-core 1.0GHz ติด RAM 768MB ความจุภายใน 4GB
- ขนาดตัวเรือนไม่รวมสาย 24.9 x 44.6 x 11.6มม. หนัก 50 กรัม ตัวสายขนาด 20 มม.
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.2 , Wi-Fi b/g/n , NFC, GPS/GLONASS/Beidou
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Barometer, Heart-Rate, Monitor, Ambient Light
- แบตเตอรี่ 300mAh ใช้ระบบชาร์จแบบไร้สาย
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกสุด 50 เมตร และยังผ่านการทดสอบตามมาตรฐานทางกองทัพสหรัฐฯ MIL STD-810G
- สนับสนุนการทำงานร่วมกันกับ สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy และสมาร์ทโฟน Android ที่รันระบบ Android 4.4 ขึ้นไป หรือ iPhone 7, 7 Plus, 6s, 6s Plus, SE, iPhone 5s ที่รันกับ iOS 9 ขึ้นไป
- มีสีให้เลือก น้ำเงิน กับดำ
- ราคาในไทย 9,900 บาท
กล่องของ Gear Sport เป็นสีดำแสดงโลโก้และรูปของสินค้า พร้อมสเปคที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้ไว้อย่างชัดเจน ส่วนภายในกล่องจะประกอบด้วย
- นาฬิกา Samsung Gear Sport
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกันสินค้า
- สายชาร์จแบบ microUSB พร้อมอะแดปเตอร์ในตัว
- แท่นชาร์จ
- สายนาฬิกา Size S ( สายที่ติดมากับตัวนาฬิกาเป็น Size L)
ดีไซน์ของ Gear Sport ดูผ่านๆจะไม่แตกต่างจากนาฬิกาข้อมือทั่วไปครับ ขนาดทำมากำลังดีและมีน้ำหนักเบา
รุ่นนี้มีเข้าไทยมา 2 สี ประกอบด้วย สีดำที่ดูแมนๆหน่อย และสีน้ำเงินที่ออกไปทางวัยรุ่นสดใส
สำหรับตัวสายที่แถมมาให้ก็เป็นสายมาตรฐานขนาด 20 มม. ใช้วัสดุเป็นซิลิโคนเนื้อดีแข็งแรง แน่นเหนียว มีความยืดหยุ่นสูง ใครที่ข้อมือเล็กก็เอาสาย Size S ในกล่องมาเปลี่ยนได้
หรือถ้าอยากได้สายที่เข้ากับสไตล์การแต่งตัวทาง Samsung ก็มีให้เลือกซื้อเปลี่ยนกันไม่ว่าจะเป็น สาย Hybrid Sport ที่ให้ลุคนักกีฬา ,สายหนัง Classic Leather แบบคลาสสิก หรือสาย Casual cool และ Premium Nato ที่เหมาะกับลุคลำลอง
หน้าปัดนาฬิกาเป็นแบบกลมติดตั้งจอสัมผัส Super AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 360×360 พิกเซล ปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 แสดงผลกลางแจ้งได้ชัดเจน ขณะที่วงแหวนบริเวณขอบหน้าปัดสามารถปรับหมุน ซ้าย-ขวา ใช้ควบคุมการทำงานของนาฬิกาได้
ตัวเรือนใช้วัสดุสแตนเลสสตีลเกรด 316L ที่เป็นวัสดุคุณภาพสูง ทนการกัดกร่อนจากเหงื่อ ด้านข้างมีปุ่มสองปุ่ม ถ้าใส่นาฬิกาที่ข้อมือด้านซ้ายปุ่มที่อยู่ด้านบนจะเป็นปุ่มสำหรับย้อนกลับ ขณะที่ปุ่มด้านล่างจะเป็นปุ่มสำหรับกดกลับไปที่หน้าหลัก ถ้ากดค้างจะเป็นปุ่ม เปิด/ปิด นาฬิกา โดยที่ทั้งสองปุ่มมีการขีดรอยเพิ่มพื้นผิวสัมผัสซึ่งจะมีประโยชน์มากๆเมื่อใช้งานในขณะเล่นกีฬาทางน้ำ นอกจากนี้ยังรูไมโครโฟนเล็กๆตรงกลางระหว่างปุ่มสองปุ่มด้วยครับ
ส่วนด้านหลังของนาฬิกาจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Sensor) ครับ โดยที่ระบบชาร์จแบตเตอรี่ของ Samsung Gear Sport จะเป็นแบบไร้สายทำงานกับแท่นชาร์จที่มีตัวแม่เหล็กยึดด้านหลังของนาฬิกาให้ติดเข้ากับร่องบนแท่นได้พอดิบพอดี ซึ่งที่แท่นจะมีไฟ LED บอกสถานะการชาร์จไฟด้วย
Samsung Gear Sport ผ่านการรับรองมาตรฐานในระดับ 5ATM ที่หมายความว่าตัวนาฬิกามีความสามารถในการป้องกันแรงดันน้ำในระดับ 50 เมตร ทำให้สามารถใส่อาบน้ำ หรือใส่ว่ายน้ำในสระได้ แต่ไม่แนะนำให้ใส่ดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกครับ
ขณะที่มาตรฐานอีกตัวที่สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ได้มาคือ MIL STD-810G เป็นมาตรฐานทางทหารของสหรัฐอเมริกาเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของอุปกรณ์ในการทนต่อสภาวะต่างๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับความชื้นการจัดเก็บและการใช้งานที่ระดับความสูงและการแช่ในน้ำ
มาดูเรื่องการใช้งานกันบ้าง Samsung Gear Sport เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกับแอปฯ Samsung Gear ครับ นับว่าสะดวกมากๆสำหรับคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy อยู่แล้วเพราะมีแอปฯติดตั้งมาให้ในเครื่องเสร็จสรรพ ส่วนใครที่ใช้ของยี่ห้ออื่นก็ต้องไปโหลดแอป Samsung Gear (Android) หรือ Samsung Gear S (iOS) มาติดตั้งในเครื่องเสียก่อนถึงจะเริ่มใช้งานได้
สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้จะรองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนที่รันระบบ Android 4.4 ขึ้นไป หรือ iPhone 7, 7 Plus, 6s, 6s Plus, SE, iPhone 5s ที่รันกับ iOS 9 ขึ้นไป นอกจากการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth แล้วอุปกรณ์ตัวนี้ก็ยังรองรับการเชื่อมต่อระยะไกลผ่านระบบ Wi-Fi อีกด้วยแต่จะใช้งานได้แค่บางฟีเจอร์เท่านั้น
การควบคุมตัวนาฬิกาหลักๆจะใช้การสัมผัสที่หน้าจอทั้งการทัช สไลด์ ประกอบกับการหมุนวงแหวนที่หน้าปัด โดยที่มีปุ่มกดทั้งสองไว้ใช้กดย้อนกลับ หรือเรียกกลับไปที่หน้าแรก
หน่วยประมวลผลของ Gear Sport เป็น Dual-Core 1.0GHz แบบเดียวกันกับ Gear S3 มี RAM มาให้ 768MB พร้อมความจุภายในสำหรับลงแอปฯ หรือใส่ไฟล์มีเดียอย่างไฟล์รูปภาพ หรือไฟล์เพลง 4GB ที่กดส่งได้โดยตรงจากตัวสมาร์ทโฟน
โดยที่การเล่นเพลงจากตัวนาฬิกาก็จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อเข้ากับหูฟังแบบไร้สายก่อนครับ ซึ่งตัวอุปกรณ์รองรับไฟล์ทั้ง MP3, M4A, 3GA, AAC, OGG, OGA, WAV, WMA, AMR และ AWB
Gear Sport เป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองซึ่งก็ได้แก่ Tizen OS 3.0 ทำให้เราสามารถกดโหลดแอปฯ หรือรูปแบบหน้าปัด (Watch Face) จากนาฬิกาได้โดยตรง หรือจะทำผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีแอปฯ และหน้าปัดให้เลือกใช้เยอะมากๆ
นอกจากนี้ตัว Gear Sport ก็ยังรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ สามารถซิงค์การแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนให้มาขึ้นที่หน้าจอของนาฬิกาได้ แถมยังพิมพ์ข้อความตอบกลับได้ด้วย แต่ด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กคิดว่า ถ้าไม่เร่งด่วนจริงๆใช้วิธีกดพิมพ์จากสมาร์ทโฟนจะง่ายกว่าครับ และอีกหนึ่งความสามารถที่ต้องพูดถึงหน่อยคือการเอามาใช้เป็นตัวควบคุมหน้าสไลด์ในโปรแกรม PowerPoint ได้ด้วยครับ น่าจะถูกใจชาวออฟฟิศที่ต้องพรีเซนต์งานบ่อยๆ
แน่นอนว่า Samsung Gear Sport คือสมาร์ทวอทช์ที่ทำมาสำหรับการออกกำลังกาย สารพัดฟีเจอร์เพื่อการดูแลสุขภาพก็เลยจับยัดมาให้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ มีให้เลือกตั้งแต่ ตรวจจับตลอดเวลา (ซึ่งจะส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่), ตรวจจับทุก 10 นาที และไม่ต้องตรวจจับ
ขณะที่เซ็นเซอร์ระบบการตรวจจับการเคลื่อนไหวก็มีทั้งแบบ แนวราบและแนวตั้ง, การเดิน, การวิ่ง, การขึ้นลงบันได แถมระบบภายในก็ยังจะมีรูปแบบการออกกำลังกายมาให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รวมถึงแอพ Speedo on จาก Speedo ที่ใช้สำหรับการตรวจจับการว่ายน้ำ ซึ่งก่อนลงสระก็แนะนำให้เปิดโหมด “ล็อกน้ำ” ไว้ก็ดีครับเพื่อป้องกันแรงตึงผิวของน้ำไปสัมผัสหน้าจอของอุปกรณ์จนเปิดฟีเจอร์ หรือแอปฯต่างๆโดยไม่ตั้งใจ
นอกจากฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกลายแล้วใน Samsung Gear Sport ก็ยังมีระบบควบคุมการกิน การดื่มน้ำในแต่ละวัน และระบบแจ้งเตือนให้มีการขยับแข้ง ขยับขา เมื่อผู้ใส่นั่งอยู่กับที่เป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งข้อมูลต่างๆจะถูกบันทึกในแอปฯ S Health
มาดูในเรื่องของแบตเตอรี่กันบ้างรุ่นนี้ให้ความจุแบตฯมาที่ 300 mAh การใช้งานโดยทั่วไปจะอยู่ได้ราวๆ 2-3 วันสบายๆ หรือในกรณีฉุกเฉินแบตฯจะหมดหาที่ชาร์จไม่ทันจริงๆก็ยังมีโหมดประหยัดพลังงานให้เลือกใช้กันได้
ด้วยคุณสมบัติต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานดีไซน์และน้ำหนักที่ไม่ต่างจากนาฬิกาข้อมือทั่วไป ประกอบกับความทนทานตามคุณสมบัติของสมาร์ทวอทช์ที่เป็นแนวสปอร์ตด้วยมาตรฐานกันน้ำระดับ 5ATM บวกกับระบบปฏิบัติการ Tizen OS 3.0 และการทำงานร่วมกับแอปฯ S-Health ก็จัดได้ว่า Gear Sport เป็นแก็ตเจ็ตที่มีความครบจบในตัวถือว่าเป็นอาวุธเด็ดของ Samsung สำหรับการแข่งขันในตลาดสมาร์ทวอทช์ได้เป็นอย่างดีครับ
สำหรับใครที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของ Samsung Gear Sport ได้แล้ววันนี้ สนนราคาที่ 9,900 บาท