อินฟินิกซ์ โมบิลิตี้ เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ Infinix ZERO 5 อย่างเป็นทางการในไทย โดยมาพร้อมสเปคกล้องคู่ หน้า-หลัง อัด RAM เต็มที่ 6GB ในราคาที่ไม่ถึงหมื่น
ข้อมูลสเปกเครื่อง Infinix ZERO 5
- จอแสดงผล IPS จาก Sharp ขนาด 5.98 นิ้ว ความละเอียด FullHD คลุมด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 แบบขอบโค้ง 2.5D
- หน่วยประมวลผล MediaTek Helio P25 MT6757 (64-bit) 8 Cores 2.6 GHz ติด RAM 6GB ความจุตัวเครื่อง 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 128GB
- รองรับ Micro SIM 2 ซิมการ์ด สนับสนุนเครือข่าย 2G, 3G, 4G
- กล้องหลังเลนส์คู่ เลนส์ไวด์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเลนส์เทเล 13 ล้านพิกเซล และไฟแฟลช Dual LED มี Optical zoom 2 เท่า, ซูมดิจิตอล 10 เท่า
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และแฟลช LED
- ระบบปฏิบัติการ XOS Hummingbird v3.0 บนพื้นฐาน Android 7.0
- แบตเตอรี 4350 mAh มีระบบชาร์จเร็ว Xcharge4.0 ชารืจ 10 นาที คุยต่อเนื่องได้นาน 230 นาที
- มี 3 สี แดง (Bordeaux Rex), ดำ (Sandstone Black) และ ทอง (Champagne Gold)
- ราคา 9,990 บาท
แบรนด์ อินฟินิกซ์ (Infinix) เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีนที่เน้นจุดขายด้านเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ทุกเซกเมนท์ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยมีการทำตลาดมาแล้วทั่วโลกทั้ง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย
การทำตลาดในไทยทางแบรนด์ได้มีการทดลองตลาดมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2017 แต่งตั้ง บริษัท เทเลทัช จำกัด เป็นตัวแทนนำเข้าและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยที่ปัจจุบันมีสินค้าวางขายทั่วประเทศเป็นที่เรียบร้อย และเน้นไปที่ตลาดในต่างจังหวัด ทำให้มียอดผู้ใช้มากกว่า 10,000 เครื่อง จากยอดนำเข้า 20,000 เครื่อง และมีเป้าหมายในปี 2018 อยู่ที่ 300,000 เครื่อง
คุณจุลลดา ทรัพย์สารสิน กรรมการบริหาร Infinix Thailand เผยว่า“แบรนด์ของเราผลิตในจีนแต่เน้นส่งออกจึงไม่มีการวางขายในจีน ชูจุดขายที่ จอดี, แบตฯดี และใส่รายละเอียดพิเศษให้ในกับมือถือแต่ละเซกเมนท์ ซึ่งเรานำเสนอความจริงใจกับผู้บริโภค ตอบสนองกับฟีดแบคที่เข้ามา แก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีดีลเลอร์ในไทยอยู่ 500 กว่าราย โดยที่เน้นการทำตลาดในต่างจังหวัด 70% กรุงเทพฯ 30% ซึ่งเรามีช่องทางจำหน่ายผ่านร้านตู้ และมีร้านค้าที่ติดต่อนำเครื่องทดสอบจากเราไปลงหน้าร้านแล้ว 300 ตู้ ขณะที่งบการตลาดส่วนใหญ่จะลงไปที่ออนไลน์ ส่วนหน้าร้านจะเน้นที่การตกแต่งกับทำกิจกรรม ณ จุดขาย”
ผลิตภัณฑ์ Infinix ที่เข้ามาในไทยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย HOT Series, S Series, NOTE Series และ ZERO Series ซึ่ง อินฟินิกซ์ จะเน้นการทำตลาด ณ จุดขาย เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานจริงให้กับลูกค้า ร่วมกับการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ อย่างแฟนเพจของแบรนด์ และการรีวิวสินค้าจากสื่อต่างๆ รวมถึงหน้าร้านออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada พร้อมทั้งทำแคมเปญประกวดภาพถ่ายสำหรับลูกค้า ZERO5 เพื่อชิงแพ็คเกจเดินทางไปเซี่ยงไฮ้
ขณะที่บริการหลังการขายก็มีแคมเปญ ประกันจอแตก 1 ปี เปลี่ยนฟรีไม่มีเงื่อนไข